ไพ่แบล็คแจ็ค Blackjack
แบล็คแจ็ค หรือ ป๊อก 21 เป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่ง การเล่นคือนับแต้มสูงสุดที่ 21 แต้ม ใครได้แต้ม 21 ถือว่าเป็นผู้ชนะในเกมนั้นทันที วิธีการเล่นจะคล้ายคลึงกับไพ่ป๊อกของไทยหรือเรียกว่าไพ่ป๊อก 21 ซึ่งเกมแบล็คแจ็คนั้นได้รับความนิยมแพร่หลายมาจากฝรั่งเศส และเกมแบล็คแจ็คได้ถูกรวบรวมมาไว้ในคาสิโนออนไลน์อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนั้นในทุกคลับคาสิโนทุกที่จะต้องมีเกมแบล็คแจ็คไว้รองรับลูกค้าอย่างแน่นอนนั่นก็หมายถึงปัจจุบัน เกมนี้เป็นได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้ที่ชื่นชอบการเล่นไพ่แบล็คแจ็ออนไลน์ชนิดนี้ไปเรียบร้อยแล้วโดยเฉพาะคนไทยฮิตเล่นกันมากจริงๆเนื่องจากเป็นการถ่ายทอดสด Live มาจากคาสิโนที่โด่งดังในต่างประเทศ สามารถเล่นได้บนมือถือสมาร์ทโฟน และบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับ เล่นง่ายได้เงินจริงเพียงเลือกสมัครเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่มีมาตาฐานและใบรับรองการเปิดให้บริการที่ชัดเจน มีความปลอดภัยสูงสุด
ที่มาของเกมส์ไพ่แบล็คแจ๊ค
แบล็คแจ็ค มีประวัติที่เล่าขานต่อกันมาแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่บงชี้ชัดได้จากที่ได้ยินมาซึ่งก็มีหลายทฤษฎีอยู่ด้วยกันมีหลายที่มาบอกว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคโรมันผ่านมานับเป็นพันปีแล้ว บางแหล่งก็บอกว่าเริ่มมาจากศตวรรษที่15 บ้างก็บอกมาจากอเมริกาช่วงศตวรรษที่ 18 และที่มาอีกหลายที่ และหลักฐานที่เริ่มชัดขึ้นคือที่ รัฐเนวาด้าศตวรรษที่ 20 และอีกประเทศที่มีแนวโน้มค่อนข้างมาก ประเทศฝรั่งเศส ที่มีชื่อเกมว่า vingt-et-un กติกาการเล่นคล้ายๆกับ blackjack ที่นับผลรวมของแต้มในมือให้ได้มากที่สุดแต่ไม่เกิน 21 แต้ม สรุปคือไพ่แบล็คแจ็คได้ถูกคิดค้นขึ้นมาด้วยคนคนหนึ่ง จากนั้นกาลเวลาผ่านมาหลายร้อยปีวิวัฒนาการก็หมุนไปตามโลกเทคโนโลยีถือกำเนิดจึงได้มีการนำวิธีการเล่น ไพ่แบล็คแจ็ค ใช้ในการเล่นพนันของชาว เนวาด้า ในยุค ปี 1931 ที่ให้เป็นการแข็งขันแบบถูกกฎหมาย และเข้าสู่บ่อนคาสิโนแบบถูกกฎหมายอีกด้วย และได้เป็นต้นกำเนิดของเกมไพ่แบล็คแจ็คคาสิโนออนไลน์ ที่เราอยากจะเล่นเวลาใดที่ไหนก็ได้ที่เราต้องการเรียกว่าเป็นสุดยอดเกมออนไลน์ที่ฮิตมากในไทย ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้
กฎกติกาและอัตราการจ่ายเกมส์ไพ่แบล็คแจ๊ค
กฎกติกา
- แต้มสูงสุดของเกมไพ่แบล็กแจ็ค คือ 21 แต้ม หากแต้มเกิน 21 เท่ากับ Busted ทันที
- มือไหนที่ได้ Ace 1 ใบ + ไพ่มีค่า 10 = BlackJack ทันที
- ผู้เล่น – เจ้ามือ BlackJack เหมือนกันจะถือว่า เสมอ
- ทั้งผู้เล่นและดีลเลอร์ สามารถใช้สิทธิจั่วไพ่เพิ่มได้ โดยฝั่งดีลเลอร์จะหยุดจั่วไพ่เมื่อมากกว่า หรือเท่ากับ 17
อัตราการจ่าย
- หากชนะแบบธรรมดา จะมีอัตราการจ่ายที่ 1 ต่อ 1
- หากชนะแบบแบล็คแจ็ค มีอัตราการจ่ายที่ 3 ต่อ 2
- เดิมพันประกัน หากไพ่ของเจ้ามือได้ Ace การทำประกันจะวางเงินเดิมพันอีกเท่าตัว หากไพ่ของเจ้ามือเป็น Blackjack จะได้รับเงินเดิมพันครึ่งหนึ่ง มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 2 ต่อ 1 แต่หากเจ้ามือไม่ได้ Blackjack จะเสียเงินประกันทันที
- หากผู้เล่นได้ไพ่แบล็กแจ็ค และไพ่ใบแรกของเจ้ามือเป็น A ต้องเก็บก่อน เพราะไม่ว่าไพ่ของเจ้ามือจะเป็นแต้มเท่าไหร่ ผู้เล่นก็จะได้ 1 เท่า คืออัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1
วิธีการเล่นเกมส์ไพ่แบล็คแจ๊ค
1. เมื่อเข้าสู่เกมแล้ว ดีลเลอร์จะทำการผายมือผ่านผู้เล่นที่อยู่หน้าจอ เพื่อเป็นสัญญานบอกว่าให้ผู้เล่นเริ่มวางเงินเดิมพันได้
2. เมื่อผู้เล่นทำการวางเงินเดิมพันแล้ว ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่แบบเปิดแต้ม เรียงให้ผู้เล่นจนครบ คนละ 2 ใบ
3. ดีลเลอร์จะได้จั่วไพ่ใบที่ 2 เป็นคนสุดท้าย ซึ่งจั่วแบบปิดไพ่
4. ดีลเลอร์จะให้ผู้เล่นเริ่มเล่นก่อนโดยเรียงจาก ซ้ายมือ ไปขวามือ ของดีลเลอร์
5. ด้านผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่า จะ Hit , Stand, Double Down , Pair หรือ Secured
6. เมื่อผู้เล่นเล่นเสร็จแล้ว ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ใบที่ 2 โดยมีสิทธิจั่วไพ่เพิ่มได้ ถ้าแต้มน้อยกว่า 16 หรือ 17 (แล้วแต่กฎของแต่ละโต๊ะ)
7. หากดีลเลอร์ได้แต้ม เกิน 21 จะถือว่า Busted