ผลฟุตบอลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คู่ที่หลายๆคนจับตามอง ก็คงหนีไม่พ้น 2 ทีมลุ้นแชมป์โดยเฉพาะ หงส์แดง ลิเวอร์พูล กับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงและรองจ่าฝูงในขณะนี้ ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของ ฤดูกาล แต่ทั้งสองทีมก็พยายามที่จะเอาชนะคู่แข่งให้ได้ในทุกๆนัด ถึงแม้ในขณะนี้ เป็นฝ่ายลิเวอร์พูล ที่ทำผลงานได้ดีกว่า เป็นการเอาชนะรวด ทั้ง 7 นัด มี 21 คะแนนนำเป็นจ่าฝูง โดยนัดล่าสุดเป็นการบุก ไปเอาชนะทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0 ทั้งๆที่เป็นฝ่ายทำเกมส์ได้ดีกว่า น่าจะได้ประตูเพิ่มมากกว่านี้ แต่ยังดีที่ที่ยังเอาชนะไปได้ รักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้ต่อไป สำหรับทีมเรือใบสีฟ้า ที่ต้องออกไปเยือน ทีมทอฟฟี่ สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ก้เป็นฝ่ายบุกไปเอาชนะได้ ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1 เพื่อที่จะรักษาระยะห่างไว้ที่ 5 คะแนนเท่าเดิม เพราะทีมหงส์แดงได้แข่งก่อนและเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ทำให้ระยะห่างเพิ่มเป็น 8 คะแนน ทำให้เหล่านักเตะของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องมุ่งมั่นเพื่อเอาชนะให้ได้ และก็สามารถทำได้สำเร็จ
หลังจากนี้ไป ก็คงจะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบ วัดกึ๋นของกุนซือ ทั้งสองทีมว่าจะพาลูกทีมไปคว้าแชมป์กันได้หรือไม่ เพราะหลังเกมส์ที่หงส์แดง ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ดไปได้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มาให้สัมภาษณ์ ว่าทีมลิเวอร์พูล คงไม่สามารถสู้ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้ในการทำประตูคู่แข่ง ที่เอาชนะ วัตฟอร์ด ถึง 8 ประตูต่อ 0 แต่ตัวเค้าเองอยากให้ ทีมลิเวอร์พูล เอาชนะ ด้วยสกอร์ 1-0 อย่างนี้ ไปอีกสัก 8 ครั้ง คงจะดีกว่าที่จะเอาชนะ 8-0 ครั้งเดียว จากคำพูดประโยคนี้ น่าจะเป็นการพูดเชิงจิตวิทยา ไปให้กับทีมคู่แข่ง จริงๆแล้ว ประโยคนี้ เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ที่ว่า ไม่ว่าทีมจะสามารถ เอาชนะคู่แข่งได้กี่ประตู ทีมนั้นก็ได้เพียง 3 คะแนนอยู่ดี แต่คงไม่ลืมว่า การทำประตูคู่แข่งได้เยอะๆนั้น มันมีผลต่อการนับประตูได้เสียเช่นกัน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นี้ จะเกิดได้น้อยมาก แต่การที่ยิงประตูคู่แข่งให้ได้เยอะๆ ในเกมส์การแข่งขัน มักจะสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่านักเตะในทีมได้มากยิ่งขึ้น
#เด็กบ้านนอกบ้าบอล