หลังจากมีข่าวสะเทือนวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จัดการปลดรูเปรดีกีย์ ที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ออกจากตำแหน่งแล้วแต่งตั้ง เกรแฮม พอตเตอร์ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่หลายคนตั้งคำถามว่า การตัดสินใจนี้เหมาะสมหรือไม่? เนื่องจากผลงานที่ไม่สู้ดีนักของเขากับเชลซีในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปจะพบว่าการเลือกพอตเตอร์มาคุมทีมอาจเป็นการเดิมพันที่มีความหวังสำหรับ “ขุนค้อน” ในการสร้างอนาคตใหม่

ประวัติและปรัชญาการทำทีมของเกรแฮม พอตเตอร์
เกรแฮม พอตเตอร์เริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการฟุตบอลอังกฤษจากการนำทีมไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นโดดเด่น แม้เขาจะไม่ได้คุมทีมใหญ่ในระดับท็อปมาก่อน แต่พอตเตอร์ก็ได้รับการยกย่องในเรื่องความสามารถในการพัฒนาผู้เล่น และสร้างทีมที่มีระบบการเล่นที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาด
ในขณะที่การคุมเชลซีไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวัง แต่สถานการณ์ของเชลซีนั้นเต็มไปด้วยปัจจัยซับซ้อนหลายอย่าง ทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสโมสรภายใน การซื้อตัวผู้เล่นที่แพงเกินจริงและไม่ตอบโจทย์ หรือเจ้าของทีมผู้บริหารดูจะเป็นคนที่เจ้าอารมณ์หน่อยมีความอดทนน้อย และที่สำคัญความคาดหวังสูงจากแฟนบอล ทำให้พอตเตอร์ไม่มีเวลาเพียงพอในการสร้างทีมตามวิสัยทัศน์ของเขา
ทำไมเวสต์แฮมถึงเลือกพอตเตอร์?
การตัดสินใจครั้งนี้มีเหตุผลหลายประการที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของสโมสร ดังนี้
- ปรัชญาฟุตบอลที่สอดคล้องกับเวสต์แฮม เวสต์แฮมเป็นทีมที่มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่น และมีความคาดหวังที่จะเห็นทีมเล่นฟุตบอลที่มีเสน่ห์ พอตเตอร์เป็นโค้ชที่สามารถนำสไตล์การเล่นที่ดุดันและชาญฉลาดมาใช้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างทีมที่สามารถรับมือกับคู่แข่งที่หลากหลาย
- การพัฒนานักเตะเยาวชน เวสต์แฮมมีดาวรุ่งหลายคนที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ พอตเตอร์มีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาผู้เล่นให้ดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเหมาะสมกับเป้าหมายของสโมสรในการสร้างทีมระยะยาวที่มีความยั่งยืน
- โอกาสในการเริ่มต้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหลังเปลี่ยนจากเดวิด มอยส์ มาสู่รูเปรดีกีย์ และล่าสุดหวยมาออกที่พอตเตอร์ นี้อาจเป็นโอกาสที่เหมาะสมสำหรับเวสต์แฮมในการปรับโครงสร้างและแนวทางการเล่นใหม่ พอตเตอร์มีโอกาสใช้ประสบการณ์จากความล้มเหลวที่เชลซีมาเป็นบทเรียนในการพัฒนาตัวเองและทีมใหม่
พอตเตอร์จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง?
การมาของพอตเตอร์เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับเวสต์แฮม เนื่องจากเขามีสไตล์การบริหารทีมที่โดดเด่น ทั้งในเรื่องของการพัฒนานักเตะและการปรับแท็คติกที่ยืดหยุ่น บทบาทของเขาอาจนำพาเวสต์แฮมไปสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและศักยภาพ
การเล่นที่มุ่งเน้นระบบและความยืดหยุ่น
พอตเตอร์ชื่นชอบการสร้างทีมที่มีความสามารถในการปรับตัวตามสถานการณ์ การนำแผนการเล่นที่หลากหลายมาใช้กับเวสต์แฮมอาจช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการแข่งขันกับทีมที่แข็งแกร่ง
การสร้างความมั่นใจในนักเตะ
หนึ่งในจุดแข็งของพอตเตอร์คือการกระตุ้นให้นักเตะเล่นอย่างมั่นใจและมีบทบาทสำคัญในทีม สิ่งนี้อาจช่วยดึงศักยภาพสูงสุดของนักเตะเวสต์แฮมออกมา
พัฒนาเกมรุกที่หลากหลาย
ปัญหาของเวสต์แฮมในอดีตคือการพึ่งพากองหน้าบางคนมากเกินไป การเข้ามาของพอตเตอร์อาจนำไปสู่การกระจายโอกาสการทำประตูจากผู้เล่นหลายตำแหน่ง และพัฒนาเกมรุกให้มีมิติหลากหลายมากขึ้น
ความท้าทายที่รออยู่
แม้ว่าพอตเตอร์จะมีศักยภาพ แต่ก็ไม่ใช่ว่าการคุมเวสต์แฮมจะปราศจากอุปสรรค ความกดดันจากแฟนบอลและความคาดหวังที่สูงลิ่วอาจเป็นความท้าทายใหญ่ นอกจากนี้ พอตเตอร์ยังต้องปรับตัวกับทีมที่มีลักษณะและโครงสร้างที่แตกต่างจากทีมที่เขาเคยคุมมาก่อน
ณ วันที่ 17 มกราคม 2025 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับที่ 12 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 โดยมี 26 คะแนน จากการลงแข่ง 21 นัด

ผลงานล่าสุดของทีมในช่วง 5 นัด
ผลงานล่าสุดของทีมในช่วง 5 นัด หลังสุดในพรีเมียร์ลีก มีดังนี้ :
- 4 มกราคม 2025 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4
- 30 พฤศจิกายน 2024 แพ้ อาร์เซน่อล 2-5
- 26 พฤศจิกายน 2024 ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0
- 9 พฤศจิกายน 2024 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
- 2 พฤศจิกายน 2024 แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-3
จากผลงานดังกล่าว เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีฟอร์มการเล่นที่ไม่คงที่นัก อย่างไรก็ตาม ด้วยตำแหน่งปัจจุบันที่อันดับ 12 และคะแนนที่มีอยู่ ทีมยังมีโอกาสที่จะขยับขึ้นสู่อันดับที่สูงกว่านี้ได้ หากสามารถปรับปรุงฟอร์มการเล่นและเก็บคะแนนในนัดต่อ ๆ ไปได้อย่างต่อเนื่อง การจบฤดูกาลในอันดับกลางตารางหรือสูงกว่านั้นยังคงเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและประสิทธิภาพของทีมในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล
สรุป
การแต่งตั้งเกรแฮม พอตเตอร์เป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมอาจดูเสี่ยงในสายตาหลายคน แต่เมื่อพิจารณาถึงปรัชญาการทำทีมและศักยภาพของเขา การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับ “ขุนค้อน” หากพอตเตอร์สามารถนำบทเรียนจากอดีตมาใช้ และปรับตัวให้เข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว เขาอาจจะกลายเป็นผู้จัดการทีมที่เวสต์แฮมต้องการเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต